ความเป็นมา
แนวคิดของการสื่อสารผ่านดาวเทียมเกิดจากจินตนาการของนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษชื่อ อาเทอร์ ซี. คลาก ที่ได้เขียนบทความเกี่ยวกับข่ายงานที่ “ถ่ายทอดมาจากนอกโลก” พัฒนาการของการสื่อสารผ่านดาวเทียมได้รับการกระตุ้นขึ้นในช่วง พ.ศ. 2503-2512 เมื่อองค์การนาซา ได้พยายามส่งคนไปลงบนดวงจันทร์ จึงจำเป็นต้องสร้างข่ายงานโทรคมนาคมเพื่อติดต่อยานอวกาศและถ่ายทอดข้อมูลระหว่างโลกและห้วงอวกาศ จึงทำให้สหรัฐอเมริกาจัดตั้งองค์กรเอกชนคอมแซต ขึ้นเพื่อการสร้างข่ายงาน และประจวบกับระยะเวลานั้นด้วยความร่วมมือขององค์การสหประชาชาติที่ประชุมของรัฐบาลประเทศต่างๆ ได้ร่วมกันจัดตั้งองค์การดาวเทียมเพื่อการโทรคมนาคมระหว่างประเทศ หรือเรียกว่า “อินเทลแซต”ขึ้นเพื่อทำหน้าที่จัดการและดำเนินการโทรคมนาคมระหว่างประเทศผ่านดาวเทียมเพื่อการพาณิชย์และในปีพ.ศ.2508ได้มีการส่งดาวเทียมชุดอินเทลแซตขึ้นไปในอวกาศเป็นครั้งแรก
การทำงานของดาวเทียม
ดาวเทียมมีการใช้ช่องรับส่งผ่านสัญญาณ ซึ่งเป็นอุปกรณ์การสื่อสารภายในดาวเทียมที่มีชุดของเครื่องส่งและเครื่องรับเพื่อใช้ในการหน่วงสัญญาณที่ส่งมาและรับมาจากพื้นโลกโดยสถานีภาคพื้นดินจะส่งสัญญาณขึ้นไปยังดาวเทียม เรียกว่า “ความถี่เชื่อมโยงขึ้น” เมื่อดาวเทียมได้รับสัญญาณแล้ว ช่องรับส่งผ่านสัญญาณจะทำการขยายสัญญาณนั้นและเปลี่ยนความถี่ที่จะส่งลงมาใหม่ให้แตกต่างไปจากความถี่ที่ส่งไป ความถี่ที่ส่งกลับลงมายังสถานีภาคพื้นดินจะเรียกว่า “ความถี่เชื่อมโยงลง” ส่วนบริเวณพื้นที่บนโลกที่สามารถรับสัญญาณดาวเทียมได้เรียกว่า “เขตคลุมสัญญาณ”
ดาวเทียมมีการใช้ช่องรับส่งผ่านสัญญาณ ซึ่งเป็นอุปกรณ์การสื่อสารภายในดาวเทียมที่มีชุดของเครื่องส่งและเครื่องรับเพื่อใช้ในการหน่วงสัญญาณที่ส่งมาและรับมาจากพื้นโลกโดยสถานีภาคพื้นดินจะส่งสัญญาณขึ้นไปยังดาวเทียม เรียกว่า “ความถี่เชื่อมโยงขึ้น” เมื่อดาวเทียมได้รับสัญญาณแล้ว ช่องรับส่งผ่านสัญญาณจะทำการขยายสัญญาณนั้นและเปลี่ยนความถี่ที่จะส่งลงมาใหม่ให้แตกต่างไปจากความถี่ที่ส่งไป ความถี่ที่ส่งกลับลงมายังสถานีภาคพื้นดินจะเรียกว่า “ความถี่เชื่อมโยงลง” ส่วนบริเวณพื้นที่บนโลกที่สามารถรับสัญญาณดาวเทียมได้เรียกว่า “เขตคลุมสัญญาณ”
ประเภทของดาวเทียม
1. ดาวเทียมสื่อสาร
2. ดาวเทียมสำรวจ
3. ดาวเทียมพยากรณ์อากาศ
4. ดาวเทียมทางการทหาร
5. ดาวเทียมด้านวิทยาศาสตร์
1. ดาวเทียมสื่อสาร
2. ดาวเทียมสำรวจ
3. ดาวเทียมพยากรณ์อากาศ
4. ดาวเทียมทางการทหาร
5. ดาวเทียมด้านวิทยาศาสตร์
แถบความถี่ของดาวเทียมที่นิยมใช้กันทั่วไปแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
1. ดาวเทียม “ซี-แบนด์” แพร่สัญญาณด้วยพิสัยความถี่ตั้งแต่ 5.925-6.425 จิกะเฮิรตซ์ในการเชื่อมโยงขึ้น และ 3.7-4.2 จิกะเฮิรตซ์ในการเชื่อมโยงลง
2. ดาวเทียม “เคยู-แบนด์” เป็นดาวเทียมที่มีพลังสูง สามารถส่งความถี่ได้ในพิสัยความถี่ตั้งแต่ 14.0-14.5 จิกะเฮิรตซ์ในการเชื่อมโยงขึ้น และ 11.7-12.2 จิกะเฮิรตซ์ในการเชื่อมโยงลง
3. ดาวเทียม “เค-แบนด์” หรือ “ดาวเทียมแพร่สัญญาณโดยตรง” ที่มีการทำงานในพิสัยของสเปกตรัม 12.2-17.8 จิกะเฮิรตซ์
นอกจากนี้ยังมีดาวเทียม “เอส-แบนด์” ที่ใช้ในองค์การนาซา และดาวเทียม “เอ๊กซ์-แบนด์”ใช้ในวงการทหาร
ในด้านการติดติดสื่อสารนั้น ปัจจุบันจะนิยมใช้ดาวเทียม 2 ประเภท ดังนี้
1. ดาวเทียมวงจรโคจรต่ำ
2. ดาวเทียมค้างฟ้า
1. ดาวเทียมวงจรโคจรต่ำ
2. ดาวเทียมค้างฟ้า
การใช้ดาวเทียมเพื่อการศึกษา
นับตั้งแต่ความสำเร็จของสหรัฐอเมริกาในการส่งดาวเทียมเอทีเอส-6 ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงที่ส่งเพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาโดยเฉพาะเพื่อยกระดับการศึกษาเข้าสู่ยุคอวกาศ เป็นการส่งเสริมการศึกษาให้เข้าถึงประชาชนได้ทั่วทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2517 ปัจจุบันสามารถนำเอาดาวเทียมแพร่สัญญาณโดยตรงมาใช้ในลักษณะการรับตรงจากดาวเทียม เรียกว่า “ระบบดีทีเอช” สามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านสถานีรับ
นับตั้งแต่ความสำเร็จของสหรัฐอเมริกาในการส่งดาวเทียมเอทีเอส-6 ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงที่ส่งเพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาโดยเฉพาะเพื่อยกระดับการศึกษาเข้าสู่ยุคอวกาศ เป็นการส่งเสริมการศึกษาให้เข้าถึงประชาชนได้ทั่วทุกท้องถิ่นทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2517 ปัจจุบันสามารถนำเอาดาวเทียมแพร่สัญญาณโดยตรงมาใช้ในลักษณะการรับตรงจากดาวเทียม เรียกว่า “ระบบดีทีเอช” สามารถรับสัญญาณจากดาวเทียมได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านสถานีรับ
การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมมีประโยชน์ดังนี้
1. เพื่อการศึกษาในระบบโรงเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา
2. เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่อาศัยในท้องถิ่นห่างไกล
3. เป็นการส่งเสริมการศึกษาระบบเปิดในระดับอุดมศึกษา
4. เพื่อการฝึกหัดทางด้านอาชีพและเทคนิคการทำงานต่างๆ
5. เพื่อการศึกษาผู้ใหญ่โดยสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง
6. เป็นพัฒนาการของการจัดการด้านการศึกษา
1. เพื่อการศึกษาในระบบโรงเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงระดับอุดมศึกษา
2. เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่อาศัยในท้องถิ่นห่างไกล
3. เป็นการส่งเสริมการศึกษาระบบเปิดในระดับอุดมศึกษา
4. เพื่อการฝึกหัดทางด้านอาชีพและเทคนิคการทำงานต่างๆ
5. เพื่อการศึกษาผู้ใหญ่โดยสามารถเรียนได้ด้วยตนเอง
6. เป็นพัฒนาการของการจัดการด้านการศึกษา
ดาวเทียมเพื่อการศึกษาในระบบโรงเรียน
เป็นการใช้ส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมเพื่อส่งรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ เป็นการสอนแทนครูหรือเสนอการสอนในวิชาที่ขาดแคลนครู โดยจะเป็นการสอนในระบบการสื่อสารทางเดียวและการสื่อสารสองทางจะเป็นการใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมประเภทต่างๆ ร่วมกับอุปกรณ์การประชุมทางไกลด้วยภาพและเสียง การศึกษาในปัจจุบันจึงได้ชื่อว่า “โทรคมนาคมเพื่อการศึกษา” ส่วนห้องเรียนจะเรียกว่า “ห้องเรียนทางไกล” , “ห้องเรียนอิเล็กทรอนิกส์” หรือ “ห้องเรียนทางโทรทัศน์” ซึ่งมีการรับสัญญาณตรงจากดาวเทียมโดยการที่มีจานรับสัญญาณดาวเทียมของสถาบันเองเป็นการรับในรูปแบบของดีบีทีวี ซึ่งเป็นการนำเอาระบบรับตรงจากดาวเทียม (ดีทีเอช) มาใช้กับโทรทัศน์
เป็นการใช้ส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมเพื่อส่งรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ เป็นการสอนแทนครูหรือเสนอการสอนในวิชาที่ขาดแคลนครู โดยจะเป็นการสอนในระบบการสื่อสารทางเดียวและการสื่อสารสองทางจะเป็นการใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมประเภทต่างๆ ร่วมกับอุปกรณ์การประชุมทางไกลด้วยภาพและเสียง การศึกษาในปัจจุบันจึงได้ชื่อว่า “โทรคมนาคมเพื่อการศึกษา” ส่วนห้องเรียนจะเรียกว่า “ห้องเรียนทางไกล” , “ห้องเรียนอิเล็กทรอนิกส์” หรือ “ห้องเรียนทางโทรทัศน์” ซึ่งมีการรับสัญญาณตรงจากดาวเทียมโดยการที่มีจานรับสัญญาณดาวเทียมของสถาบันเองเป็นการรับในรูปแบบของดีบีทีวี ซึ่งเป็นการนำเอาระบบรับตรงจากดาวเทียม (ดีทีเอช) มาใช้กับโทรทัศน์
ดาวเทียมเพื่อการศึกษานอกระบบโรงเรียน
โดยการที่ผู้สอนหรือวิทยากรจะอยู่ในสถาบันการศึกษาหรือศูนย์กลางของการสอน ผู้เรียนจะอยู่รวมกันในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง แต่ก็สามารถทำการเรียนการสอน ฝึกอบรม โดยอาจใช้ระบบดีบีทีวี หรือเป็นการต่อสายเคเบิลจากสถานีรับสัญญาณดาวเทียมและใช้ร่วมกับเครื่องรับโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ลำโพง ในลักษณะการประชุมทางไกลโดยวีดีทัศน์ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมอภิปราย ปรึกษาหารือหรือถามปัญหาขัดข้องใจได้
โดยการที่ผู้สอนหรือวิทยากรจะอยู่ในสถาบันการศึกษาหรือศูนย์กลางของการสอน ผู้เรียนจะอยู่รวมกันในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง แต่ก็สามารถทำการเรียนการสอน ฝึกอบรม โดยอาจใช้ระบบดีบีทีวี หรือเป็นการต่อสายเคเบิลจากสถานีรับสัญญาณดาวเทียมและใช้ร่วมกับเครื่องรับโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ลำโพง ในลักษณะการประชุมทางไกลโดยวีดีทัศน์ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมอภิปราย ปรึกษาหารือหรือถามปัญหาขัดข้องใจได้
การใช้สัญญาณผ่านดาวเทียมในงานห้องสมุด
ห้องสมุดเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดข้อมูลและสารสนเทศจึงได้ชื่อว่า “ท่าห้องสมุด” หรือ “ท่าโทรคมนาคม” หมายถึง การใช้ห้องสมุดเพื่อเป็นศูนย์กลางของการสื่อสารโทรคมนาคมในการรับและส่งสารสนเทศในรูปแบบของเสียง ภาพ และตัวอักษร โดยใช้การส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมมายังสถานีรับภาคพื้นดิน และทางสถานีรับจะส่งสัญญาณผ่านเส้นใยนำแสงหรือทางคลื่นไมโครเวฟทางภาคพื้นดินไปยังห้องสมุด ท่าโทรคมนาคมห้องสมุดจะทำหน้าที่ ดังนี้
1. เป็นฐานข้อมูลเพื่อส่งข้อมูลและข่าวสารไปยังประเทศต่างๆ
2. เป็นแหล่งรวบรวมเอกสารเพื่อการค้นคว้า
3. เป็นศูนย์กลางในการติดต่อค้นคว้าและรับ-ส่งเอกสารระหว่างประเทศ
4. เป็นศูนย์กลางในการติดต่อของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลี่ยนข่าวสาร
ห้องสมุดเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดข้อมูลและสารสนเทศจึงได้ชื่อว่า “ท่าห้องสมุด” หรือ “ท่าโทรคมนาคม” หมายถึง การใช้ห้องสมุดเพื่อเป็นศูนย์กลางของการสื่อสารโทรคมนาคมในการรับและส่งสารสนเทศในรูปแบบของเสียง ภาพ และตัวอักษร โดยใช้การส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมมายังสถานีรับภาคพื้นดิน และทางสถานีรับจะส่งสัญญาณผ่านเส้นใยนำแสงหรือทางคลื่นไมโครเวฟทางภาคพื้นดินไปยังห้องสมุด ท่าโทรคมนาคมห้องสมุดจะทำหน้าที่ ดังนี้
1. เป็นฐานข้อมูลเพื่อส่งข้อมูลและข่าวสารไปยังประเทศต่างๆ
2. เป็นแหล่งรวบรวมเอกสารเพื่อการค้นคว้า
3. เป็นศูนย์กลางในการติดต่อค้นคว้าและรับ-ส่งเอกสารระหว่างประเทศ
4. เป็นศูนย์กลางในการติดต่อของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในการแลกเปลี่ยนข่าวสาร
ดาวเทียมไทยคมเพื่อการศึกษาในประเทศไทย
เริ่มมีตั้งแต่ พ.ศ. 2509 โดยใช้ผ่านดาวเทียมอินเทลแซต หรือการเช่าดาวเทียมของประเทศอื่น ดาวเทียมไทยคมเป็นดาวเทียมที่เอื้ออำนวยประโยชน์อย่างมหาศาลในการสื่อสารต่างๆ แก่ประเทศไทย
เริ่มมีตั้งแต่ พ.ศ. 2509 โดยใช้ผ่านดาวเทียมอินเทลแซต หรือการเช่าดาวเทียมของประเทศอื่น ดาวเทียมไทยคมเป็นดาวเทียมที่เอื้ออำนวยประโยชน์อย่างมหาศาลในการสื่อสารต่างๆ แก่ประเทศไทย
การจัดการศึกษาผ่านดาวเทียมไทยคม
การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง
2. เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกรับการศึกษาที่เหมาะสมกับความสามารถของตนเอง
3. เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของการจัดการศึกษา
4. เพื่อพัฒนาการจักการศึกษาทางไกลให้เหมาะสมกับการพัฒนาเทคโนโลยี
การจัดการศึกษาผ่านดาวเทียมไทยคมจะครอบคลุมการบริการทางการศึกษา 3 ประเภท คือ
1. การศึกษาทางไกลตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน
2. การศึกษาในระบบโรงเรียน โดยเน้นวิชาที่ยากและขาดแคลนผู้สอน
3. การศึกษาตามอัธยาศัย เป็นข้อมูลข่าวสารและการศึกษาที่ส่งเสริมการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน
การจัดการเรียนการสอน
1. การศึกษานอกโรงเรียน
2. การศึกษาในระบบโรงเรียน
3. การศึกษาตามอัธยาศัย
อุปกรณ์รับสัญญาณ
1. จานรับสัญญาณดาวเทียมขนาดเล็ก
2. อุปกรณ์รับและถอดรหัสสัญญาณดาวเทียม
3. เครื่องรับโทรทัศน์
มสธ. และการใช้ดาวเทียมไทยคม
มสธ. ได้จัดการเรียนการสอนทางไกล โดยทดลองส่งสัญญาณออกอากาศจากมสธ. เชื่อมโยงด้วยระบบไมโครเวฟไปยังสถานีไทยคม แล้วส่งสัญญาณโทรทัศน์ขึ้นสู่ดาวเทียมไทยคมออกอากาศไปยังผู้ชมส่วนภูมิภาคด้วยระบบดีทีเอช โดยใช้จานรับสัญญาณรับได้ในช่อง 45 และในขณะนี้ได้ทำการติดตั้งชุดรับสัญญาณดาวเทียมทั่วประเทศ ณ ศูนย์บริการการศึกษาประจำจังหวัดต่างๆ หรือรับโดยตรงจากจานรับสัญญาณดาวเทียมในระบบเคยู-แบนด์ที่ติดตั้งที่บ้านก็ได้
มสธ. ได้จัดการเรียนการสอนทางไกล โดยทดลองส่งสัญญาณออกอากาศจากมสธ. เชื่อมโยงด้วยระบบไมโครเวฟไปยังสถานีไทยคม แล้วส่งสัญญาณโทรทัศน์ขึ้นสู่ดาวเทียมไทยคมออกอากาศไปยังผู้ชมส่วนภูมิภาคด้วยระบบดีทีเอช โดยใช้จานรับสัญญาณรับได้ในช่อง 45 และในขณะนี้ได้ทำการติดตั้งชุดรับสัญญาณดาวเทียมทั่วประเทศ ณ ศูนย์บริการการศึกษาประจำจังหวัดต่างๆ หรือรับโดยตรงจากจานรับสัญญาณดาวเทียมในระบบเคยู-แบนด์ที่ติดตั้งที่บ้านก็ได้
ที่มา : แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม
กิดานนท์ มลิทอง. เทคโนโลยีกรศึกษาและนวัตกรรมการศึกษา .กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2543.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น