ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป ฝากรูป

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

จูมล่า (Joomla)



ประวัติของจุมลา

     Joomla!  กำเนิดขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2005 ด้วยการแยกตัวของกลุ่มนักพัฒนาหลักในโปรเจ็กต์แมมโบ้ ( Mambo ) ซึ่งเป็น CMS ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในสมัยนั้น ออกมาสู่โปรเจ็กต์ใหม่ที่ชื่อ Joomla! แมมโบ้เป็นเครื่องหมายทางการค้าของบริษัท Miro International Pty Ltd. ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งองค์กรพัฒนาโปรเจ็กต์ CMS ที่ไม่หวังผลกำไรที่ชื่อว่า Mambo ขึ้นมา สาเหตุที่ทำให้กลุ่มนักพัฒนาหลักของโปรเจ็กต์แมมโบ้แยกตัวกันออกมาก็คือ ความไม่ชัดเจนของวิสัยทัศน์เรื่องลิขสิทธิ์ทางเครื่องหมายการค้าจากทาง Miro ซึ่งหวั่นเกรงกันว่าจะกระทบถึงแนวคิดในการพัฒนาแบบ Open Source ได้ ทีมนักพัฒนาโปรแกรมที่แยกตัวออกมา เริ่มต้นด้วยการสร้างเว็บไซด์ที่ชื่อว่า OpenSourceMatter.org ขึ้นมา เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารออกไปสู่กลุ่มผู้ใช้งาน นักพัฒนาโปรแกรม นักออกแบบเว็บไซด์ และสังคมออนไลน์ต่างๆ นำทีมโดย Andrew Addie หรือที่ใช้ชื่อออนไลน์ว่า " MasterChief " ซึ่งได้เขียนจดหมายขึ้นมาและส่งเข้าไปยังเว็บกลุ่มสังคมออนไลน์เดิมของ Mambo คือที่ Mambo Server.com หลังจากนั้นผู้คนหลายพันคนก็แห่กันเข้ามาสมัคร เข้าสู่ฟอรั่มของ OpenSourceMatter.org ภายในวันเดียว พร้อมกับเขียนข้อความให้กำลังใจกับทีมงานพัฒนากลุ่มนี้ และจะสนับสนุนการทำงานของทีมพัฒนากลุ่มนี้ต่อไปอีกด้วย เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ในวงการอินเทอร์เน็ตข่าวหนึ่งเลยทีเดียว สำนักข่าวไอทีออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น newsforge.com, eweek.com, และ ZDNet.com เป็นต้น ต่างก็นำเสนอข่าวนี้ จนกระทั่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัท Miro ต้องออกมาตอบคำถามต่อสาธารณชนด้วยบทความที่มีชื่อว่า " The Mambo Open Source Controversy-20 Questions With Miro " อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ข้างต้นนี้ก็ได้ปลุกเร้าให้สังคม Open Source ทั่วโลกได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อปกป้องสิทธิ์แห่งความเป็น " Open Source " ที่แท้จริงเอาไว้ ในวันที่ 1 กันยายน 2005 ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์แยกตัวของทีมพัฒนาโปรแกรมหลัก Eddie ก็ได้ประกาศการร่วมสร้างองค์กรและสังคมออไลน์กันใหม่ เพื่อสร้างสรรค์ไปสู่ความก้าวหน้าของ CMS แบบ Open Source ที่แท้จริงโดยได้ใช้ชื่อโปรเจ็กต์ใหม่ว่า " Joomla! " ซึ่งออกเสียงภาษาอังกฤษว่า " Jumla         " ( จุมลา ) มาจากภาษาสวาฮิติ ( Swahiti ) ที่มีความหมายว่า " ด้วยกันทั้งหมด " หรือ " ร่วมกันทั้งหมด " และในการประกาศโปรเจ็กต์ใหม่นี้ก็มีนักพัฒนาโปรแกรมกว่า 3,000 คน ประกาศเข้าร่วมมือกันทันที Joomla! เปิดตัวเวอร์ชันแรก ( Joomla 1.0.0 ) ในวันที่ 16 กันยายน 2005 ซึ่งเป็นการนำซอร์สโค้ดของแมมโบ้เวอร์ชัน 4.5.2.3 มาใส่ชื่อ Joomla!ลงไป พร้อมทั้งแก้ไข bug และเพิ่มเติมคุณสมบัติทางด้านการรักษาความปลอดภัยบางอย่างเข้าไป นับจากวันนั้น Joomla! ก็ได้อัปเดตตัวเองสู่เวอร์ชันใหม่เรื่อยมา ส่วนเวอร์ชันที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อก้าวไปสู่ความเป็น Joomla! เองโดยไม่อิงอยู่กับรูปแบบจาก Mambo อีกต่อไปก็เริ่มต้นขึ้นที่เวอร์ชัน 1.5 ซึ่งเปิดตัวขึ้นในวันที่ 22 มกราคม 2551 และพัฒนาแก้ไขในส่วนต่างๆ เรื่อยมา จนมาถึง เวอร์ชันล่าสุดคือ เวอร์ชัน 1.6 ซึ่งเปิดตัวขึ้นในไตรมาสแรกของพ.ศ. 2554

เวอร์ชันของจูมล่า
    จูมล่าถูกแบ่งออกเป็น 3 เวอร์ชันคือ เวอร์ชัน 1.0 ซึ่ง เวอร์ชัน 1.0 คือ การพัฒนามาจาก mambo เวอร์ชัน 1.5 ที่พัฒนาใหม่หมดและ เวอร์ชัน 1.6 ได้ทำการพัฒนาแล้วเสร็จเปิดตัวเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2554
เวอร์ชัน 1.0 ออกเมื่อวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2005 รุ่นล่าสุดคือ 1.0.15 (ณ วันที่ 1 มกราคม 2552)
เวอร์ชัน 1.5 ออกวันที่ 22 มกราคม 2551 รุ่นล่าสุดคือ 1.5.26 ออกเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2554
เวอร์ชัน 1.6 ออกเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2554 รุ่นล่าสุดคือ 1.6.6 released ออกเมื่อ 27 กรกฎาคม 2554
เวอร์ชัน 1.7 ออกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 รุ่นล่าสุดคือ 1.7.0 ออกเมื่อ 20 กรกฎาคม 2554
เวอร์ชัน 2.5 รุ่นล่าสุดคือ 2.5.4 ออกเมื่อ 2 เมษายน 2555



Joomla คืออะไร ?

    joomla คือ CMS ตัวหนึ่งจากหลาย ๆ ตัวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน สำหรับคุณที่ยังไม่รู้จักว่า CMS คืออะไร ขออธิบายสั้น ๆ เพิ่มเติมดังนี้ครับ CMS นั้นเป็นอักษรย่อของ คำว่า "Content Management System" ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาไทย หมายถึง ระบบบริหารจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์  นั่นหมายความว่า สิ่งที่เราจะต้องดูแลก็คือเนื้อหาของเว็บไซต์ เช่น การเพิ่มบทความ การเพิ่มรูปภาพ หรือการปรับแต่งโยกย้ายโมดูลต่าง ๆ  ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งเขียน Code ด้วยภาษา HTML, PHP, SQL เพียงแต่เรียนรู้วิธีการติดตั้ง การปรับแต่ง การใช้งาน CMS เท่านั้น  สำหรับ Code ต่าง ๆ ที่นำมาสร้าง และ ออกแบบเว็บไซต์ จะทำโดยทีมงานของผู้พัฒนา CMS ของแต่ละทีม ซึ่งทำให้ประหยัดเวลาในการสร้าง  และออกแบบเว็บไซต์ ได้อย่างมาก
     joomla เป็น CMS ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ  เพราะมีระบบการจัดการเนื้อหาที่มีรูปแบบสากล การปรับแต่งหน้าตาของเว็บไซต์ทำได้ง่าย เพราะถูกออกแบบมาให้รองรับกับเทคโนโลยีการ ออกแบบเว็บไซต์ สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ Flash หรือ GIF Animation นอกจากนี้คุณยังสามารถ Download Template ได้อย่างมากมายมีทั้งแบบที่สามารถนำมาใช้งานได้ฟรี (โดยให้เครดิตผู้สร้างนิดหน่อย เช่น ไม่ลบชื่อทีมพัฒนา Template นั้นออกจาก Template เป็นต้น) หรือหากต้องการ Template ที่มีประสิทธิภาพ และมีความสวยงาม ก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้ เพราะมีเว็บไซต์ที่ให้บริการจัดทำ Template ของอยู่มากมาย จุดเด่นอีกจุดหนึ่งก็คือมี Extension จำนวนมากให้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้งาน เช่น Component, Module, Plugin มีทั้งแบบฟรี และแบบต้องชำระเงิน สำหรับเว็บไซต์อย่างเป็นทางการคือ http://www.joomla.org   เป็นศูนย์รวมข่าวสารการ Update joomla และคุณสามารถ download extension ต่าง ๆ ได้จากที่นี่
     joomla มีการ Update อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าการ ออกแบบเว็บไซต์ ด้วย CMS joomla จะมีความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบัน (ตุลาคม 2553) เป็นรุ่น 1.5.21 และที่สำคัญที่สุดคือ รองรับภาษาไทย 100% เพราะมีทีมงานที่คอยดูแลเรื่องภาษา ทำให้เราไม่ต้องมากังวลกับการใช้งานภาษาไทยว่าจะผิดเพี้ยนในส่วนใดหรือไม่ และในขณะนี้ Team ผู้พัฒนากำลังร่วมกันพัฒนารุ่นใหม่ คือ joomla1.6 ซึ่งในขณะนี้ก็ใกล้จะได้ใช้งานกันในเวลาอันใกล้นี้คือ Joomla 1.6.4 Released สำหรับในเวอร์ชั่น 1.5 ก็ยังคงพัฒนาเพิ่มเติมมาจนถึง 1.5.23 หากท่านใดใช้เวอร์ชั่นเก่าอยู่ก็แนะนำให้ upgrade ให้ทันสมัยอยู่เสมอนะครับ ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของเว็บไซต์ของท่านเอง


ลักษณะเด่น
     ไม่ต้องเสียเวลากับการออกแบบเว็บไซต์ เพียงแค่พิมพ์ข้อมูลก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วด้วย templates ต่าง ๆ ไม่ต้อง Upload Files ไปยัง server เพียงแค่เลือกคำสั่ง Save ข้อมูลจะถูกบันทึกทันที สามารถใช้งานและ Update ข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลาตามต้องการผ่าน Internet Explorer หรือ Web Browser อื่น ๆ มีส่วนเพิ่มเติมประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์มากมาย เช่น Poll, Forums ช่วยให้บริหารจัดการข้อมูลได้เป็นอย่างดี เช่น ข้อมูลจะถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบทำให้ง่ายต่อการค้นหาและแก้ไข, สามารถซ่อนข้อมูลหรือ เนื้อหาได้ สามารถกำหนด User เพิ่ม เพื่อเข้ามาช่วยในการพัฒนาเว็บไซต์ โดยสามารถกำหนดสิทธิ์ให้กับ User ตามความเหมาะสม หรือเพื่อให้เนื้อหา บางส่วนของเว็บไซต์สามารถเปิดดูได้เฉพาะผู้ที่เป็นสมาชิกเท่านั้น

โปรแกรมเสริม

     จุมลามีโปรแกรมเสริม (Extension) ให้เลือกใช้หลายประเภท ตั้งแต่ระดับ Component, โมดูล (Module), Plug-ins และภาษา (Language) โดยโปรแกรมเสริมที่โดดเด่นได้แก่
     Dublin Core Extended โปรแกรมเสริมนี้เป็น Plug-ins ที่ช่วยให้ข้อมูลบรรณานุกรมของบทความกับซอฟต์แวร์และหรือระบบต่างๆ แบบอัตโนมัติ เช่น การให้ข้อมูลบรรณานุกรมกับซอฟต์แวร์จัดการการอ้างอิง Zotero
     Book Library Basic โปรแกรมเสริมที่ช่วยในการพัฒนาระบบจัดการระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ระบบห้องสมุดดิจิทัล สามารถจัดหมวดหมู่หนังสือ ลงรายการทางบรรณานุกรม รวมถึงการแนบไฟล์ดิจิทัลไปกับรายการ




ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B2
http://www.ninetechno.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น